สำหรับพื้นไม้ SPC เป็นหนึ่งในวัสดุปูพื้นบ้านยอดฮิตที่แวดวงผู้รับเหมาก่อสร้างรู้จักดี เนื่องจากเป็นพื้นที่มีคุณสมบัติแตกต่างจากพื้นชนิดอื่น ๆ ไล่ตั้งแต่ความทนทาน ราคาที่เป็นมิตร เราลองมาทำความรู้จักกับพื้น SPC ให้มากกว่านี้ก่อน แล้วคุณจะหลงรักพื้นชนิดนี้ได้ไม่ยากเลย

พื้น SPC คือ ประเภทของพื้นกระเบื้องยางชนิดหนึ่ง มีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า “พื้นกระเบื้องยางลายไม้” (Stone Plastic Composite Flooring , SPC) สำหรับบางคนอาจเรียกว่า “พื้นไม้ SPC” หรือบางคนเรียกว่า “กระเบื้องยาง SPC” โดยตัวพื้นไม้ SPC นี้เป็นพื้นกระเบื้องยางที่มีส่วนผสมจากพลาสติก PVC มีคุณสมบัติที่เหนียว ยืดหยุ่น มีความทนทานและแข็งแรงสูงมาก

โดยผิวหน้าของพื้นถูกออกแบบมาให้ใช้ลวดลายของไม้ที่แตกต่างกันออกไป มีให้เลือกหลากหลายแบบ ตั้งแต่โทนสีอ่อนไปจนถึงโทนสีเข้ม ที่สำคัญคือเป็นพื้นที่มีการเคลือบผิวชั้นบนด้วยวัสดุ Wear Layer รองรับการขีดข่วนได้ดีพอสมควร เช่น เมื่อขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านก็หมดปัญหาเรื่องพื้นเป็นรอย ผุกร่อน แตกหัก

• ทนทานต่อความชื้น น้ำ และไฟ ด้วยการเคลือบผิวชั้นบนด้วยวัสดุ Wear Layer ทำให้พื้นผิวมีความทนทานต่อความชื้นได้ดี หมดปัญหาเรื่องไม้บวม แม้แต่บริเวณครัว ที่มีการใช้งานร่วมกับไฟ ตัวกระเบื้องยาง SPC ก็สามารถลดความสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้เช่นกัน

• ลวดลายสวยงาม ด้วยการออกแบบให้เป็นลายไม้ จึงมีให้เลือกหลากหลายโทนสี นำไปปรับใช้กับบ้านได้หลายสไตล์
• ผิวสัมผัสดีกว่าพื้นไม้ทั่วไป สังเกตได้เลยว่าเมื่อสัมผัสตัวกระเบื้องยาง SPC จะให้ความรู้สึกแตกต่างจากพื้นไม้จริงหรือพื้นไม้ลามิเนตทั่วไป แม้ภายนอกจะมีลักษณะใกล้เคียงกัน แต่ผิวสัมผัสของพื้นไม้ SPC จะดีกว่า เรียบเนียนกว่ามาก ๆ  
• ดูแลรักษาได้ง่าย โดยเฉพาะการทนต่อการเกิดรอยขีดข่วน การรองรับแรงกระแทก ทั้งยังสามารถรับน้ำหนักได้ดี บวกกับไม่ได้เป็นพื้นที่ทำจากไม้ จึงหมดปัญหาเรื่องปลวกกินในอนาคต  
• ติดตั้งสะดวก ตัวพื้นไม้ SPC สามารถปูพื้นใหม่หรือปูทับวัสดุเดิมได้ เนื่องจากใช้ระบบ Click-Lock ช่วยลดความซับซ้อนในการติดตั้งได้ดี รื้อถอนก็ง่ายกว่าพื้นแบบอื่น

• ไร้สาร Formaldehyde ซึ่งเป็นสารอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งพบเจอได้บ่อยในวัสดุการสร้างบ้านและอาคาร

1. การเลือกพื้น SPC

สำหรับการเลือกพื้นกระเบื้องยาง SPC นั้น เบื้องต้นให้เลือกโดยยึดจากโทนสีของตัวบ้านหรือห้องที่ใช้เป็นหลัก ซึ่งส่วนมากแล้วโทนสีที่นิยมจะเป็นโทนสีอ่อน เช่น น้ำตาลอ่อน เพราะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น สว่าง โปร่ง หรือบางครั้งก็อาจจะเลือกใช้สีสลับกัน เพื่อทำให้พื้นบ้านมีมิติสวยงามมากขึ้น เช่น ปูกระเบื้องยางลายก้างปลา

2. วิธีการติดตั้งพื้น SPC เบื้องต้น

วิธีการติดตั้งและปูพื้นกระเบื้องยาง SPC นั้น เบื้องต้นให้ปูตามแนวเส้นของพื้นที่กำหนดเอาไว้ โดยให้ปูแบบลายขัดแล้วเว้นระยะขอบเอาไว้ประมาณ 5-6 เซนติเมตร เผื่อในกรณีที่พื้นยืดและหดตามอุณหภูมิโดยรอบ และหากเป็นการปูทับพื้นเดิมที่ไม่ได้มีความเรียบเสมอกัน อาจใช้แผ่นโฟมปูรองพื้นก่อน แล้วค่อยปูพื้นกระเบื้อง SPC ทับตามลงไป

3. วิธีการดูแลรักษาพื้นไม้ SPC เบื้องต้น

การดูแลรักษาให้พื้นไม้ SPC สามารถใช้วิธีการดูแลพื้นแบบปกติได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการกวาด การดูดฝุ่น แม้แต่การถูด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ข้อควรระวังคือ ไม่ควรทำความสะอาดด้วยการใช้น้ำยาชนิดต่าง ๆ อาทิ น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก ไม่ควรใช้ Wax ขัดเคลือบผิว เพราะจะไปกัดสารที่เคลือบอยู่บนพื้นผิวตัวกระเบื้องให้หลุดออกได้

1. ติดตั้งใหม่ตามห้องต่าง ๆ ของตัวบ้าน

ด้วยคุณสมบัติของพื้น SPC ที่ทนทาน ใช้งานและดูแลรักษาง่าย จึงทำให้เหมาะกับการปูตามพื้นหรือห้องต่างๆ ภายในบ้านได้เลย ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องครัว แต่อย่าปูในห้องน้ำโดยเด็ดขาด เพราะถึงแม้จะทนทานแต่พื้น SPC ไม่ได้เป็นพื้นที่ถูกออกแบบมาให้รองรับการสัมผัสน้ำได้ตลอดเวลาเหมือนพื้นกระเบื้อง

2. ปูทับพื้นเดิม เพิ่มความสดใหม่

หากบ้านของคุณไม่ได้สร้างใหม่ เพียงแค่ต้องการรีโนเวทปรับแต่งเป็นส่วนๆ ไป อาทิ ตกแต่งห้องนอนใหม่ ก็สามารถนำพื้นกระเบื้องยาง SPC ไปปูทับพื้นกระเบื้องหรือพื้นเดิมที่มีความเรียบได้เลย ไม่ต้องรื้อถอน แต่อาจจะต้องตรวจสอบพื้นเดิมเพื่อปิดร่องก่อนเท่านั้น

3. นำไปติดผนังเสริมดีเทลห้องให้ดูแตกต่าง

อีกหนึ่งทริกที่หลายคนอาจไม่รู้ก็คือ พื้นไม้ SPC นำไปปูติดผนังได้ เช่น ผนังห้องครัว ผนังห้องนั่งเล่น ซึ่งก็จัดว่าเหมาะกับคนที่ชื่นชอบความสวยงามของลายไม้ ไม่อยากเสียเงินไปกับการทำผนังห้องมากจนเกินไป รับรองว่าหากนำพื้นไม้ SPC ไปติดผนังแล้ว คุณจะได้บ้านที่ดูมีสไตล์โดดเด่น แตกต่างจากบ้านทั่วๆ ไปแน่นอน